หลายครั้งที่ร่างกายเหนื่อยล้าจากการทำงาน จนไม่อยากจะเดินทางไปไหนไกล หรือแม้แต่ขับรถกลับบ้าน ที่นี่ W Bangkok เป็นโรงแรมหรูใจกลางเมือง ที่อยู่ติด BTS ช่องนนทรี เหมาะแก่การมาพักผ่อน เปลี่ยนวันเหนื่อยๆให้เป็นวันแสนสุข พร้อมบรรยากาศหรูหราบนดีไซน์ที่โดดเด่น พอได้ลองมาใช้ชีวิตบนโรงแรมหรูใจกลางเมืองแบบชิลๆไม่ต้องเร่งรีบ ก็ดีไม่เบาเลยนะ

ต้องบอกก่อนเลยว่า ย่านช่องนนทรี เป็นทำเลที่เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า เป็นย่านของหนุ่มสาวออฟฟิศ ย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่วันจันทร์-ศุกร์ จะมีความคึกคักทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และการจราจรบนท้องถนนตลอดแนวเส้นสาทร

เมื่อมีโอกาสได้มาพักผ่อนบนโรงแรมหรูใจกลางเมืองอย่าง W Bangkok ที่เป็นหนึ่งในโรงแรมของเครือ Marriott ยิ่งมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานและบริการ ทำให้ยิ่งสัมผัสได้ถึงการมาชาร์ตแบต เติมพลังให้กับชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อว่า นี่คือทำเลแห่งความคึกคักความเร่งรีบต่างๆนานา จึงอยากนำประสบการณ์ดีๆของการมา Staycation บนโรงแรมหรู W Bangkok มาฝากกัน

สำหรับการเดินทางมา โรงแรม W Bangkok มายังไงนั้น จริงๆมาง่ายมาก ถ้ามาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีช่องนนทรี เดินมาอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว แต่ถ้าหากนำรถมาก็สะดวกเช่นกัน ตัวโรงแรมจะตั้งอยู่ติดถนนสาทรเหนือค่อนไปทางแยกสาทร-นราธิวาส
ความน่ารักเล็กๆน้อยๆของโรงแรม พรมจะมีการเปลี่ยนตามเวลาด้วยนะ ใครที่มาเช้าๆ ก็จะเจอ Good morning กันไป ^^

เมื่อเข้ามาถึงด้านในโรงแรมก่อนจะไปถึงบริเวณล็อบบี้โรงแรม จะเห็นได้ว่าโทนสีที่โดดเด่นของโรงแรมนี้เลย คือสีม่วง

เมื่อเข้ามาถึงบริเวณล็อบบี้โรงแรม ตรงเคาน์เตอร์ยังโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีม่วงนะ แต่ถ้าสังเกตจะเห็นว่า พื้นหลังตรงล็อบบี้โรงแรมจะมีลวดลายที่มีความเป็นไทยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคอนเซ็ปต์ของโรงแรม W Bangkok หลักๆจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมความเป็นไทยเอามาผสมผสานให้มีความทันสมัยมากขึ้น เห็นแบบนี้ตรงผนังเป็นคริสตัลที่นำมาแต่งเป็นลวดลายสักต์ยันต์ สวยและน่าประทับใจมากๆ อ่อ แบรนด์ W Hotels เป็นแบรนด์โรงแรมที่ฉีกกฏความหรูหรา 5 ดาวในแบบที่ไม่เหมือนใคร และโดดเด่นได้อย่างน่าลงตัว พนักงานต้อนรับของโรงแรมก็ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และเข้าถึงง่ายมากๆด้วยเช่นกัน

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมนำของขึ้นไปเก็บบนห้องพักกัน บริเวณหน้าลิฟต์สีสันสะดุดตามากจนต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย ที่เห็นสีสันไฟเยอะๆแบบนี้รู้มั้ยว่าคืออะไร จริงๆแล้วคือไฟของรถตุ๊กตุ๊ก หรือสามล้อไทย เกือบ 800 ดวง เลยเชียวนะ บอกแล้วว่าคอนเซ็ปต์ของโรงแรมนี้คือความเป็นไทยๆ แต่ก็มีความโมเดิรน์ได้อย่างลงตัวและสวยอย่างอัศจรรย์ มุมนี้ต่างชาติมาแล้วมีต้องชอบแหละ ขนาดคนไทยอย่างเราเห็นแล้วยังชอบเลย

มาดูที่ห้องพักของเรากันบ้างดีกว่า โดยห้องพักที่เรามาพักผ่อนกันในครั้งนี้เป็นห้องแบบ STUDIO 1 BEDROOM STUDIO SUITE, 1 KING, CITY VIEW, HIGH FLOOR นะ เป็นห้องพักที่บอกเลยว่าเหมาะกับคู่รัก หรือคู่ที่มาฮันนีมูนมากๆ

ที่ว่าห้องพักประเภทนี้เหมาะกับคู่รักก็เพราะว่า ห้องน้ำก็คือ Open ไม่มีประตูกั้นเลยนะ เพียงแต่ว่ามีการกั้นเป็นสัดส่วนระหว่างที่นอนและห้องน้ำ

แต่ถึงแม้ห้องน้ำจะเปิดไม่มีประตูกั้น ห้องสุขภัณฑ์ก็ยังมีประตูกั้นให้อยู่นะ เพื่อความเป็นส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ

แต่จริงๆแล้วด้วยขนาดของห้องพักที่ใหญ่ และการออกแบบของ W Bangkok ก็ทำให้ห้องพักดูสวยลงตัว และที่สำคัญคือน่าถ่ายรูปนี่แหละ

มุม Bathtub ก็คือต้องแช่น้ำตีฟองนอนมองวิวสวยๆแล้วล่ะ เปิดม่านสักหน่อยแล้วถ่ายรูปตรงนี้คือดีต่อใจมากเลยจริงๆ


ว่าแล้วก็ขอเอาภาพมาฝากกันสักหน่อย เป็นการนอนแช่น้ำที่ผ่อนคลายบนตีกสูงใจกลางเมืองที่ดีมากๆ ที่เห็นตึกๆกระจกนั้นคือ ตึกมหานคร ที่ว่าสูงงงมากกกในกรุงเทพฯด้วยนะ ทำเลวิวดีเห็นวิวย่านสีลมเต็มๆ


มุม Bathtub เช้าๆคือแสงดี และเหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ

ส่วนใครที่อยากอาบน้ำจริงจังก็มีมุม Shower ให้ด้วยนะ อาบน้ำโล่งๆแบบนี้แหละ ฟินดีต่อใจ เหมาะกับคู่รักมากๆ 5555

สำหรับผ้าเช็ดตัวก็ไม่ต้องห่วง ทางโรงแรม W Bangkok มีให้แบบเหลือๆ


ในส่วน Amenities ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ครบและเป็นแบรนด์ Daviness และ Skin Regimen แบรนด์ที่เน้นเรื่องการเลือกใช้ส่วนผสมและการรักษาสิ่งแวดล้อมจากประเทศอิตาลี มีครบแม้กระทั่ง Makeup Remover เลยนะ

มาดูในส่วนของเตียงนอนกันบ้างดีกว่า เตียงนอนมีขนาดคิงไซส์ พร้อมหมอนหนานุ่ม 4 ใบ อยากบอกว่าเตียงนอนสบายมากกกก


ความน่าสนใจของโรงแรม W Bangkok ก็คือเจ้าจอนี้นี่แหละ เราสามารถกดปิดปิดไฟ แต่ละโซนฟ้องได้จากจอนี้เลยนะ ดีและตอบโจทย์คนขี้เกียจลุกจากเตียงมาปิดไฟมากๆ 5555

และนี่ก็เป็นอีกความประทับใจ ทางโรงแรมได้จัดเตรียมขนมต้อนรับไว้ให้ในห้องพักด้วยนะ อร่อยทุกอย่างขอบอก

ส่วนซิกเนเจอร์ของ W Bangkok ก็คงต้องเป็นนวมอันใหญ่ๆที่เป็นกลิตเตอร์วาววับแบบนี้นะ โดยปกติทางโรงแรมจะวางตกแต่งไว้ในห้องให้ได้ถ่ายรูปเล่น แต่เนื่องจากมีสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่ได้วางไว้ แต่เราสามารถรีเควสทางโรงแรมได้เช่นกัน เอามาถ่ายรูปลงโซเชียลสักหน่อยแหละ 555 ส่วนใครที่ติดใจอยากได้กลับบ้านทางโรงแรมก็มีขายนะ สามารถติดต่อซื้อได้ที่บริเวณใกล้ๆล็อบบี้โรงแรมเลย

ในส่วนของตู้เสื้อผ้าก็ยังมีชั้นวางของ มีเสื้อคลุม ไม้แขวนเสื้อ และโต๊ะสำหรับวางกระเป๋าเดินทางไว้ให้ด้วยนะ


อีกมุมไฮไลท์สำหรับคนทำงานอย่างเรา ก็คือโต๊ะทำงานนี่แหละ ได้มีโอกาสมาพักผ่อนในโรงแรมหรูใจกลางเมืองแบบนี้ ก็ไม่วายขอนั่งทำงานแบบชิลๆมองวิวใจกลางเมืองสักหน่อย เป็นช่วงเวลาที่ได้ใช้อย่างคุ้มค่าและได้ผ่อนคลายไปพร้อมๆกันด้วย

วิวที่ได้จากห้องเราก็จะประมาณนี้แหละ ตึกสูงใหญ่ใจกลางเมืองย่านสีลม มองไปได้ไกลถึงไอคอนสยามเลยด้วยนะ

อ่อ ที่สำคัญคือได้เห็นตึกมหานครแบบใกล้มากๆ ใจกลางย่านความเจริญที่แท้ทรู ซึ่งวิวทิวทัศน์จริงๆแต่ละห้องจะไม่เหมือนกันนะ แต่จริงๆแล้ว ห้องหลักๆของโรงแรมนี้จะเป็นห้อง Standard ที่เราเอารูปมาฝากกันด้วย

ความใส่ใจและความน่ารักของโรงแรมก็คือมีแอลกฮอลล์ให้ พร้อมหน้ากากอนามัย นะ
สำหรับใครที่อยากดูภาพเพิ่มเติมของห้องที่เราไปพักมา ดูได้ที่นี่นะ www.marriott.com/hotels/hotel-rooms/details/bkkwb-w-bangkok/suit/




ส่วน 4 รูปนี้ จะเห็นภาพจากห้อง Standard ที่มีเยอะสุดในโรงแรมนะ โดยจะมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ด้วยโทนสี และมุมนั่งทำงาน หรือแม้แต่ห้องน้ำที่ค่อนข้าง Open เหมือนกัน ไม่มีประตูกั้นนะ 555 แต่ว่ามีม่านกั้นให้ด้วยเหมือนกัน และถ้าเป็นห้องแบบ 2 เตียงก็จะมีประตูบานสไลด์ให้

ไปดู Facilities ของโรงแรมกันบ้างดีกว่า ในส่วนของสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 6 ของโรงแรมนะ




สระว่ายน้ำของโรงแรม W Bangkok แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่การดีไซน์ทำออกมาได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ และสวยมากเลยทีเดียวนะ


แดดดีๆยามบ่าย ก็ต้องน้ำมะพร้าวสักหน่อย เพิ่มความสดชื่นนนนน

จากชั้นสระว่ายน้ำ เรามองเห็นแยกสาทร-นราธิวาสด้วยนะ ได้เห็นรถไฟฟ้าที่ดูเร่งรีบในวันธรรมดา แต่พอเป็นวันพักผ่อนของเรากลับเป็นมุมสเน่ห์ที่น่ามอง และสวยงามไม่เบาเลย เอาดีๆนั่งมองวิวใจกลางเมืองแบบนี้ ก็ได้ไอเดียคิดงานเจ๋งๆเหมือนกันนะ พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศแบบไม่ไกลบ้าน แต่ได้งานดีๆกลับมาด้วยนี่คุ้ม

มุมบาร์ของโรงแรม เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆได้เหมือนกันนะ

ชั้นเดียวกันกับสระว่ายน้ำก็มีห้องฟิตเนสให้สายสุขภาพได้มาออกกำลังกายด้วย

มุมห้องสปาทางโรงแรมก็มีบริการนะ และยังได้แยกฝั่งชาย-หญิงให้อีกด้วย



มาดูในส่วนของห้องอาหารโรงแรม W Bangkok บ้าง ห้องอาหารนี้ชื่อว่า The Pantry ที่เป็นอาหารแนวสุขภาพ และยังมีการตกแต่งห้องอาหารที่ได้ไอเดียมาจากปากคลองตลาด สวยเก๋และโดดเด่นมากๆ

ในส่วนของห้องอาหารที่เราจะมาทานกันในวันนี้นั้น เป็นห้องอาหาร The Kitchen Table ที่ตกแต่งโดดเด่นด้วยการดีไซน์ด้วยแรงบันดาลใจจากนิทานของไทยเรื่องชาละวัน-ไกรทอง จึงมีลวดลายจระเข้อย่างที่เห็นในภาพ


สำหรับ ห้องอาหาร The Kitchen Table นั้นจะมีบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ในมื้อกลางวันด้วยนะ แต่วันนี้เรามาทานมื้อเย็น ที่จองผ่าน Hungry Hub มา บอกเลยว่าคุ้มมาก เราจ่ายเพียง 1499/คน ก็สามารถเลือกอาหารได้คนละ 4 จานใหญ่ๆ และยังมีปิดท้ายด้วยขนมหวาน พร้อมทั้งสั่งเครื่องดื่มม็อกเทลได้ไม่อั้นด้วย มาพักผ่อนทั้งทีก็ต้องกินของอร่อยด้วยเนอะ

จานนี้คือ Smoked Wagyu Beef Brisket,StanBroke Ms 4-5 เนื้อเสือร้องไห้ที่ผ่านการหมักมาอย่างดีถึง 10 ชม.ขึ้นไปเลยนะ รสชาติคือฉ่ำ นุ่มละลายในปากมากๆ ที่สำคัญจานใหญ่สุดๆ

Bib lettuce จานนี้เป็นสลัดที่ใส่ Goat Cheese ไปด้วย อยากบอกว่าเพิ่มรสชาติให้จานสลัดกินได้อร่อยไม่เบื่อเลยนะ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว

Smoked duck leg lasagna จานนี้เป็นลาซานญ่าที่รสชาตินุ่มละมุนมาก มีขาเป็ดรสชาติผสมผสานเข้ากันดีกับซอสที่เข้มข้นด้วย

Truffle mash potato มันฝรั่งบดที่กลิ่นหอมๆของทรัฟเฟิลรสชาติละมุนลิ้นมากๆ

ปิดท้ายกันที่ขนมหวาน เป็นเค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟพร้อมไอศครีมเชอเบท ชิมคำแรกรู้เลยว่าเค้กช็อคโกแลตใช้ช็อตโกแลตอย่างดีแน่ๆ รสชาติดีมากกก ใครที่ช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ต้องไม่พลาด

หลังจากอิ่มมื้ออาหารแล้ว ก็ขอไปดูวิวใจกลางเมืองสักหน่อย รถไฟฟ้าบีทีเอสกำลังวิ่งผ่านพอดีเลย การได้หยุดชีวิตพักผ่อนท่ามกลางเมืองแบบนนี้ก็เหมือนได้ละเอาความเหนื่อยล้าที่มีมาให้หายออกไปได้แบบไม่ต้องไปไหนไกล เพียงแค่ได้กินของอร่อย ได้นอนพักผ่อนที่ดี เตียงนุ่มไ ได้อาบน้ำอุ่นๆ เปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนที่ W Bangkok ดูสักครั้งแล้วจะติดใจนะ


ความสวยในการดีไซน์ของโรงแรมยังไม่หมด บริเวณบันไดวนหน้าห้องอาหาร ถือว่าเป็นอีกมุมที่น่าถ่ายรูปด้วยนะ ทางโรงแรมได้ดึงเอาเสน่ห์ของถุงน้ำหวานสมัยก่อนมาตกแต่งบริเวณบันได พร้อมกับแต่งแสงไฟโทนสีม่วงให้ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก

หลังจากกินอิ่มไปยามค่ำคืน เราก็ผลอยหลับไปแบบสบายมากๆ ตื่นมาเจอแสงแดดยามเช้าพร้อมกับวิวเมืองแล้วดีจริงๆ ได้เวลาไปดูไลน์อาหารเช้าของ W Bangkok แล้วล่ะ














อาหารเช้าของโรงแรม W Bangkok เป็นแบบบุฟเฟต์นะ ค่อนข้างมีหลากหลายเหมือนกัน ทั้งไข่ประเภทต่างๆ ไส้กรอก เบคอน ข้าวต้ม โจ๊ก เบเกอรี่ต่างๆ ที่พลาดไม่ได้เลย ใครที่ชอบกินเนื้อต้องโดนข้าวหน้าเนื้อ รสชาติดี เนื้อดีมากๆ จนต้องขอเบิ้ล 555


เป็นมื้อเช้าในวันหยุดใจกลางเมืองที่ดีแบบไม่ต้องเตรียมเอง แถมยังมีเวลาเหลือๆให้ได้ชิลๆอีกด้วย

ขอแทรกความน่ารักของโรงแรม W Bangkok หน่อย ที่นี่น่าจะถูกใจสาย Pet Lover ที่สามารถพาน้องหมาน้องแมว 1 ตัว/ห้อง น้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม มาพักผ่อนด้วยกันได้ด้วยนะ (ตลอดปี 2564 พาน้องๆมานอนด้วยไม่เสียค่าใช้จ่าย) โดยปกติจะมีค่าใช้จ่าย 750++ บาท ต่อคืน และ ค่าทำความสะอาด 3,000++ บาทต่อครั้ง


นอกจากความโดดเด่นของโรงแรมแล้ว ข้างๆกันยังมีอาคารเก่าแก่ถึง 142 ปี ที่เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร PII มีทั้งบาร์เก๋ๆ และให้บริการอาหารไทยแท้ๆด้วย ส่วนวันอาทิตย์ ช่วง 14.30-17.30 สามารถพาน้องหมาน้องแมวมาชิลๆ ทาน Afternoon tea ในบรรยากาศสวนแบบนี้ได้ด้วยนะ
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ หาวันพักผ่อนใจกลางเมืองแบบนี้ เรามีโปรโมชั่นมาฝากกันค่ะ
ราคาคืนละ 2,999++ บาท ห้องแบบ Wonderful Room
อาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
เชคเอ้าท์ได้ถึง 21.00 น.
อัพเกรดห้องพัก (เป็นไปตามสถานะห้องว่าง)
เครดิตเงินสด 1,000 บาทต่อคืน
คะแนนแมริออท บอนวอย 2,000 คะแนนต่อการเข้าพัก และ 500 คะแนนเพิ่มเติมสำหรับคืนถัดๆไป
จองภายใน 30 เมษายน 2564 เข้าพักได้ถึง 31 ธันวาคม 2564
รายละเอียดจองห้องพัก >>www.marriott.com/hotels/hotel-deals/details/BKKWB-w-bangkok/OFF-14891
สรุปรีวิวที่พัก W Bangkok
- โรงแรมดีไซน์สวย เป็นเอกลักษณ์
- ทำเลดี ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า
- พาน้องหมา น้องแมว มาด้วยได้
- มีห้องอาหารหลายห้อง อาหารอร่อย
- เป็นโรงแรมที่เหมาะคู่รัก หรือมาฮันนีมูน
โรงแรม : W Bangkok
ที่ตั้ง : ถ.สาทรเหนือ กรุงเทพฯ
Website : www.wbangkok.com
โทร : 02 344 4000
กดติดตาม ถูกใจเพจ Enjoy lifestyle ให้ด้วยน๊าา
Pingback: Top 13 โรงแรม W สาทร - Phần mềm Portable