รีวิว Hotel Labaris Khao Yai ที่พักเขาใหญ่สวยเหมือนเทพนิยาย ได้รูปกลับไปเพียบแน่นอน

Hotel Labaris Khao Yai ที่พักเขาใหญ่ที่เปิดใหม่ในปี 2564 ที่ผ่านมา บอกเลยว่าเห็นรูปแวบแรกแล้วรู้สึกว่าสวยอลัง มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก ครั้งนี้มีโอกาสได้มาเที่ยวเขาใหญ่และได้มาพักที่ โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่ บอกเลยว่าประทับใจทุกตรง ตามไปอ่านรีวิวด้านในกันดีกว่า

เมื่อเ้ขามาถึงที่พักก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นแบบสุดๆไปเลยนะ บรรยากาศในที่พักมีต้นไม้นานาชนิดประดับเต็มไปหมด นี่ขนาดแค่บริเวณด้านหน้าของที่พักก็สวยจัดเต็มขนาดนี้แล้ว

บริเวณล็อบบี้เป็นแบบ Open Air ที่ร่มรื่นสุดๆ สำหรับห้องที่เรามาพักในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ Grand Deluxe นะ

การออกแบบของตัวอาคารที่พัก Hotel Labaris Khao Yai จะมีรูปทรงคล้ายปราสาทที่เก๋เลยทีเดียว

ได้ห้องพักห้องไหน ก็เปิดประตูเดินเข้าแต่ละห้องได้เลย มุมประตูทางเข้าห้องเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆได้ด้วย

ความเก๋ของที่นี่คึอเค้าทำทางเข้าห้องเหมือนเขาวงกตแบบนี้เลยนะ มองจากมุมสูงคือสวย

ทางเข้าห้องก็เลยจะร่มรื่นและส่วนตัวสุดๆ

รีวิวห้องพักแบบ Grand Deluxe ที่ Hotel Labaris Khao Yai

สิ่งแรกที่เข้ามาเห็นแล้วประทับใจเลยคือห้องพักกว้างขวาง และโปร่งมากๆ ขนาดว่าวาง 2 เตียงแล้วยังมีพื้นที่เหลือๆ ใครที่มีลูกเล็กมาด้วยหรือจะนอน 3 คน แจ้งทางที่พักเพื่อเสริมเตียงได้เลย ขนาดใหญ่จริงๆ

ที่ประทับใจอีกอย่างคือ ปลายเตียงเค้ามีเก้าอี้วางกระเป๋าเดินทางไว้ให้ด้วยนะ ตอบโจทย์นักเดินทางอย่างเราจริงๆ เวลาจะเปิดกระเป๋าก็แยกกันไปเลยคนละจุด อ่อ ที่นี่เค้าจะเรียกแขกที่เข้าพักทุกคนว่า “นักเดินทาง” นะ ดูเป็นกิมมิกที่น่ารักดี

อีกด้านของมุมห้องมีโต๊ะเก้าอี้ไว้เป็นมุมให้นักเดินทางได้นั่งทำงานหรือนั่งแต่งหน้าได้สบายๆเลย

นอกจากนี้ภายในห้องยังมีมินิบาร์ที่นักเดินทางสามารถทานได้ฟรีอีกด้วยนะ

เข้ามาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง นอกจากภายในห้องที่กว้างแล้ว ห้องน้ำก็ยังกว้างมากอีกเหมือนกันนะ และที่สำคัญเลยคือสวยด้วย ทางที่พักได้ตกแต่งโทนสีขาวตัดกับดำได้อย่างสวยงามมากๆ และยังได้แยกโซนสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำไว้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นเลอะพื้นส่วนอื่นๆในห้องน้ำ

ตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าก็มีความสวยแบบคลาสสิค และยังมีผนังห้องแบบกระจกใส ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นนะ แต่เวลาใช้ห้องน้ำจริงๆก็สามารถกดม่านปิดได้

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำเค้าก็มีให้ครบนะ

ออกมาหน้าระเบียงห้องก็คือกว้างมาก มองวิวภูเขาเขียวๆด้านหลังได้เต็มตา

เดี๋ยวเราจะพาไปดูบรรยากาศรอบๆของ Hotel Labaris Khao Yai กันบ้างดีกว่า บอกเลยว่าธรรมชาติมากๆ

มองจากมุมสูงตรงนี้จะเห็นความเป็นปราสาทของตัวที่พักได้ชัดมากๆ

ครอบครัวไหนที่พาเด็กๆมา พามาเล่นสนามเด็กเล่นได้เลยนะ

อีกมุมไฮไลท์ต้องขอยกให้เป็นสระว่ายน้ำของ Hotel Labaris Khao Yai เพราะเป็นสระว่ายน้ำที่ออกแบบได้กลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ เหมือนเป็นลำธารโค้งไปมาและมีต้นไม้ล้อมรอบ ฟีลดีจริงๆ

รูปโซนสระว่ายน้ำก็จะเยอะๆหน่อย แค่มานอนแช่น้ำรับลมชมวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบก็ผ่อนคลายมากๆแล้ว

อ้อ ระหว่างทางเดินมายังโซนสระว่ายน้ำ เราจะผ่านโซนนี้ก่อน เป็นโซนของห้องพักแบบพูลวิลล่า ที่มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆแบบนี้ สาวๆต้องมาถ่ายรูปแล้วนะ

ด้านข้างกันเค้ายังมีแปลงผักออร์แกนิกที่เอาไว้ทำอาหารขอห้องอาหารทางที่พักด้วยนะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูอาหารอีกที บอกเลยว่าอาหารที่นี่เค้าปังมาก อร่อยทุกอย่าง

ตื่นเช้ามาแบบสดชื่นๆ มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้จากระเบียงห้องเลยนะ

อาหารเช้าของ Hotel Labaris Khao Yai จะมีเมนูไข่ต่างๆที่เราจดแล้วออเดอร์ให้ทำมาแบบสดๆใหม่ๆ นอกนั้นจะมีก๋วยเตี๋ยวหมูอร่อยมาก และมีไส้กรอก เบค่อน และเมนูกับข้าวให้เลือกกินด้วย

รีวิวร้าน The Fable Feast Khao Yai

มาดูเรื่องอาหารการกินกันบ้าง มาพักที่ Hotel Labaris Khao Yai แล้วก็ไม่ต้องออกไปหาของกินข้างนอกเลย เพราะในที่พักเค้ามีร้านอาหารขึ้นชื่อและอร่อยมากๆตั้งอยู่นะ ตัวร้านจะอยู่โซนใกล้ๆกับสระว่ายน้ำเลย

ทางร้านตกแต่งได้อย่างสวยงามและเรียบหรู โดยอาหารจะเสิร์ฟในสไตล์ Grill Bar and European Twist ที่คัดสรรเนื้อชั้นดีจากทั่วโลกมาทำสเต๊กที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน และยังมีเมนูที่น่าสนใจทั้ง เมนูอาหารทวิสต์ และ อาหารไทยฟิวชั่น ที่บรรจงปรุงแต่งด้วยวัตถุดิบออร์แกนิก และพืชผักสมุนไพรจากท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบในคอนเซ็ปต์ Garden To Table

มื้อแรกที่เราได้มากินของร้าน The Fable Feast Meat & More นั้นจะเป็นแนวอาหารทวิสต์ที่ต้องบอกว่าน่าประทับใจมากๆ แต่ละจานเสิร์ฟมาพอชั่นใหญ่ และตกแต่งได้สวยงาม มีดอกไม้มาประดับเพิ่มความสวยงามและกินได้ด้วยนะ

จานนี้เป็นสลัดที่เปิดมื้ออาหารได้อย่างสดชื่นมากๆ นอกจากผักผลไม้ที่สดกรอบแล้ว ยังได้รสชาติความเปรี้ยวหวานเบอร์รี่ที่กำลังดี และที่สำคัญมีฟรัวกราส์ขนาดกำลังดีคลุกเคล้ามาด้วย อร่อยแบบหมดเกลี้ยงไปเลยจานนี้

สลัดจานนี้เป็นอีกจานที่สดชื่น ผักผลไม้ที่เค้าเลือกมาใส่ล้วนรสชาติดีและสดใหม่มากๆ

พิซซ่าจานนี้เด็ดมากกกกก หน้าตามาแบบพิซซ่าพัฟที่ข้างในสอดไส้ด้วยชีส ซุปข้าวโพดและหอยเชลล์ จานนี้อร่อยกินเพลินมากๆ

จานนี้เรียกง่ายๆแต่อร่อยมาๆ ข้าวหน้าแข้งวัวเนื้อวากิวตุ๋น ที่ทางร้านตุ๋นมาจนนุ่มเคี้ยวง่าย แถมยังได้ประโยชน์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วยนะ

จานนี้โดดเด่นมาด้วยล็อบสเตอร์ตัวโต ที่ปรุงมาเข้ากันดีกับข้าวรีซอตโต้ รสชาติจัดจ้านแบบพอดีมากๆ

ส่วนจานนี้คือ ลาบาริส แพลตเตอร์ ที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ในชุดนี้จะมีทั้ง เนื้อเทนเดอร์ลอย เนื้อแกะ หอยเชลล์ กุ้งลายเสือ เสิร์ฟมาพร้อมซอสหลากหลายทั้ง น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด ซอสไวน์แดง และซอสชิวา วัตถุดิบทุกอย่างคือมั่นใจได้ว่าสดใหม่และดีจริงๆ

เป็นมื้อาหารมื้อแรกของที่นี่ที่บอกเลยว่าประทับใจในทุกจานมากๆ ทั้งตกแต่งสวย และรสชาติที่อร่อยแบบไม่มีที่ติจริงๆ

สำหรับเมนูเครื่องดื่มของทางร้านก็มีเยอะมากนะ ใครอยากสดชื่นๆ เมนูน้ำผลไม้ปั่นอย่าง แตงโมปั่น และมะพร้าวนมสดปั่น เค้าก็มีเหมือนกัน

เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ยืนหนึ่งเรื่องความสดชื่น ที่สำคัญหน้าตาสวยมาก

แก้วนี้เป็นความสดชื่นที่รวมตัวกันของ ลิ้นจี่ กุหลาบและโทนิกยูชุ ที่ต้องลองสั่งมานะ

ต่อไปมาดูที่อีกมื้ออาหารของเรากันบ้าง รอบนี้จะเป็นแนวอาหารไทยแบบฟิวชั่นที่ต้องบอกว่าประทับใจและอร่อยมากอีกแล้ววว

เมนูนี้ไม่หน้าตาเหมือนลาบหมูทอดธรรมดาๆ แต่เชฟได้เพิ่มกิมมิกไปด้วยชีสที่ใส่ไปด้านในลาบ กินตอนร้อนๆละมุนไปด้วยชีสฟินแน่นอน

จานนี้ต้องบอกว่า ด้วยตัวผักกูดที่เชฟใช้จากสวนที่ปลูกเอง เป็นผักคุณภาพดีมีไฟเบอร์สูง แต่ด้วยความที่ตัวผักจะมีรสชาติออกมันๆ เชฟจึงรังสรรมาเป็นเมนูยำผักกูด เพื่อให้ได้รสชาติที่หลากหลายและเข้ากันดีมากๆ

ต้องบอกว่าเป็นเมนูที่กินหมดเกลี้ยงจนหยดสุดท้ายจริงๆ ด้วยตัวรสชาติของน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวมาอย่างดี มีรสชาติที่ละมุนออกหวานมันเค็ม ผสมกับวัตุดิบในจานที่ใช้เป็นเนื้อน่องลายที่นุ่มละมุนมากๆ เป็นเมนูที่ถ้ามีโอกาสจะกลับไปกินอีกแน่นอน

เมนูโบราณที่จัดเต็มด้วยกุ้งตัวโตๆ เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดสดกรอบ เป็นอีกจานที่ยกระดับอาหารไทยให้ดูเข้าถึงง่ายมากขึ้นด้วยนะ

จานนี้เป็นเมนูใหม่ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาในการประกวดทำอาหารของทางโรงแรม และเป็นเมนูชนะเลิศที่ต้องยอมจริงๆ เพราะเป็นโรตีมะตะบะที่ละมุนในทุกคำที่กินมากๆ

ปิดท้ายด้วยเมนูนี้ที่หน้าตาและรสชาติละม้ายคล้ายแกงเขียวหวาน แต่เป็นเวอร์ชั่นน้ำขลุกขลิกต้มกับกระดูกหมูได้รสชาติเครื่องเทศแบบเข้มข้นสุดๆ

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารจากร้าน The Fable Feast Khao Yai ที่ต้องบอกเลยว่า เชฟเค้าใส่ใจและพัฒนาฝีมือในการทำอาหารปรุงอาหารได้ดีมากๆ จากการที่ทางโรงแรมมีประกวดทำอาหารแล้วได้เมนูชนะเลิศมาขายในร้าน ซึ่งรสชาติอาหารแต่ละจานไม่ใช่แค่หน้าตาดี จัดจานสวย แต่ยังใช้ทั้งวัตถุดิบชั้นดีและปรุงออกมาได้อร่อยกลมกล่อมในทุกๆจานจริงๆ

ออกมาดูแนวคาเฟ่ ของหวาน กันบ้างดีกว่า ที่ Hotel Labaris Khao Yai นอกจากจะมีร้านอาหารที่อร่อยขึ้นชื่อแล้ว ด้านหน้าที่พักยังมีคาเฟ่น่ารักๆขนมร่อยๆที่ชื่อ Rabbit Cafe

รีวิว Rabbit Cafe

Rabbit Cafe เป็นคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ใน Hotel Labaris Khao Yai ด้วยบรรยากาศร้านแบบกันเองๆ มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor แต่เหนือสิ่งอื่นใดทางคาเฟ่ทำเครื่องดื่มและขนมได้อร่อยมากๆ

เซตนี้เราสั่งเครื่องดื่มเป็น Midnight Rose เป็นน้ำช็อคโกแลตที่รสชาติเข้มข้นมากๆ และยังมีมาร์ชเมลโล่เพิ่มบนแก้วด้วยนะ แก้วตรงกลางคือ ฟรุ๊ตตี้ซันไรซ์ เครื่องดื่มสดชื่นๆที่เหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆมาก หรือจะเป็น พีชโซดา ก็สดชื่นและอร่อยไม่แพ้กันนะ ส่วนของเค้กจานนี้เราเลือก ทีรามิสุ มาลองชิม บอกเลยว่าเค้กเค้าอร่อยจริงๆ

เมนูขนมจานนี้น่ารักมาก มีความเป็นน้องกระต่ายเข้ากับชื่อร้าน ตัวขนมจะเป็นวุ้นใสๆราดด้วยน้ำเชื่อมกินแล้วไม่อ้วนมากด้วยนะ

ปิดท้ายด้วยเมนูวาฟเฟิลที่ต้องบอกว่าอร่อยอีกแล้ว ความหวานของกล้วยที่กำลังดีกับการเบิร์นหน้าด้วยน้ำตาลและราดน้ำผึ้ง กินแล้วเข้ากันดีกับวาฟเฟิลร้อนๆและไอศครีมสุดๆ

ที่พัก : Hotel Labaris Khao Yai

Facebook : www.facebook.com/hotellabaris/

โทร : 044 300 999

สรุปรีวิวที่พักเขาใหญ่ Hotel Labaris Khao Yai

1. ที่พักบรรยากาศดี ต้นไม้เยอะ ได้ฟีลใกล้ชิดธรรมชาติ
2. มุมถ่ายรูปเพียบ
3. ห้องอาหารและคาเฟ่ อร่อยแบบไม่มีผิดหวังแน่นอน
4. ห้องพักกว้างขวาง พักผ่อนสบาย

กดติดตาม ถูกใจเพจ Enjoy lifestyle ให้ด้วยน๊าา

FOLLOW US

• Facebook
• Instagram
• Twitter
• YouTube