ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากการทานชาบูชาบู และสุกี้ยากี้ ของร้านโมโม พาราไดซ์ ร้าน Nabezo Premium จึงถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของคนชอบทานเนื้อและมีความพรีเมียมมากขึ้นในแบบ ชาบู ชาบู สุกี้ยากี้ และที่นี่เสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์สพร้อมบริการทุกระดับแบบประทับใจมากๆด้วยนะ

สำหรับร้านนาเบโซ พรีเมียม ต้องบอกว่าร้านเบโซ พรีเมียม มีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และใช้วัตถุดิบเกรดเอบวกขึ้นไป อย่างเนื้อโอมิกิว เกรด A5 ที่คัดสรรเนื้อเฉพาะส่วนจากฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์, เนื้อ X-Wagyu พรีเมียม, หมูคุโรบุตะ, ปลา Buri, ผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวงกว่า 20 ชนิด และวัตถุดิบพิเศษอย่างเต้าหู้โฮมเมดรวมถึงเส้นอุด้งโฮมเมด ที่ทำสดวันต่อวัน ผ่านการปรุงแต่งที่คงรสชาติของวัตถุดิบ สูตรพิเศษเฉพาะร้านนาเบโซ พรีเมียม เลยทีเดียวค่ะ
เมนู Nabezo Premium
สำหรับการเสิร์ฟอาหารของที่นี่ จะมีการขายแบบเป็นคอร์สๆสำหรับเมนูชาบูชาบู สุกี้ยากี้ โดยได้แบ่งคอร์สตามประเภทของน้ำซุป ซึ่งในแต่ละคอร์สจะประกอบไปด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย 2 จาน (การจัดเสิร์ฟขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อ) ทางร้านมีการปรับเปลี่ยนเมนูอยู่เสมอและจะเปลี่ยนทุกๆ 2 สัปดาห์
สำหรับน้ำซุปทางร้านจะมีให้เลือก 5 แบบ ค่ะ
- Shabu-Shabu Course
- Sukiyaki Course
- Kinoko Nabe Course
- Oumi-Gyu Nabe Course
- Buri Nabe Course
โดยวันนี้เราจะขอแนะนำในส่วนของน้ำซุปสุกี้ยากี้คอร์ส และเนื้อ Oumi-Gyu กับ X-Wagyu ค่ะ

ในส่วนของเนื้อทั้ง 2 แบบ ที่เราอยากแนะนำนั้น ต้องบอกว่ามีความพิเศษและน่าสนใจมากๆ
OUMI-GYU เป็นเนื้อเกรดอันดับต้นๆ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น นำเข้าส่งตรงจากฟาร์มโอมิจากภูมิภาคคันไซ ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงปิด ควบคุมอุณหภูมิ ระบบน้ำ และอาหารทำให้เนื้อได้มาตรฐานระดับ A5 เท่านั้น
X-Wagyu คือ เนื้อวัวชนิดพิเศษที่คัดสรรมาเพื่อใช้สำหรับ Nabezo Premium ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น เป็นวัวจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้เนื้อที่มี รสสัมผัส กลิ่น และไขมันแทรกอย่างลงตัว ทางเชฟได้คัดสรรเนื้อแต่ละส่วนที่เหมาะสำหรับการรับประทานในรูปแบบชาบูชาบู และ สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น

ในส่วนของ Appetizer 2 จานนี้ จานที่ 1 เป็น Wagyu Zuchini จานที่ 2 เป็น Hotate Aburi Avocado with Green Apple and Yuzugocho Marinade ถือว่าเป็นเมนูเปิดต่อมรับรสได้ดี มีขนาดกำลังพอในการกิน และสัมผัสได้ถึงความอร่อยของวัตถุดิบที่เชฟได้นำมารังสรรเมนูนี้ให้เรากิน


อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจเมื่อเข้าสู่เมนูหลักของเรา คือ ผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวง ที่นอกจากจะสดใหม่แล้ว ยังสามารถเรียกพนักงานมาขอเติมผัก เห็ด เต้าหู้ต่างๆได้เรื่อยๆด้วยนะ



อีกทีเด็ดที่ดีงามไม่แพ้กัน คือ เต้าหู้โฮมเมด ที่หน้าตาดูน่ากินมากๆ เชฟจะเสิร์ฟเต้าหู้ร้อนๆมาพร้อมกับโชยุ แล้วเชฟจะตัดขนาดของเต้าหู้ให้พอดีคำแล้วราดโชยุพร้อมเสิร์ฟให้กับเรา กินตอนร้อนๆนะอร่อยนุ่มละมุนมาก และดีต่อสุขภาพด้วย

มาถึงพระเอกหลักของเรากับเนื้อสุดพรีเมียมในวันนี้กันบ้าง เห็นลายเนื้อแล้วใจบางมาก รู้เลยว่าต้องอร่อยนุ่มละมุน

หลังจากที่เราลิ้มรสความอร่อยของเมนู Appetizer ไปแล้ว เชฟจะทำการเตรียมลงเนื้อในหม้อชาบูชาบูให้เรา เรียกได้ว่าบริการแบบทุกระดับประทับใจกันเลยทีเดียว

มาเริ่มกันที่ X-Wagyu เนื้อวัวที่คัดสรรมาอย่างที่เฉพาะที่ Nabezo Premium เท่านั้น

เมื่อได้ระดับความสุกที่พอดี เชฟจะเอาเนื้อมาเสิร์ฟให้เราทันทีค่ะ

วิธีกินที่ถูกต้อง ต้องจุ่มไข่แบบนี้ก่อน รับรองได้ว่าเราจะได้รสชาติของเนื้อเต็มๆคำ และรสสัมที่นุ่มละมุนจนไม่อยากหยุดเคี้ยว
และในส่วนของไข่ไก่สดที่นี่ ก็ยังคัดสรรอย่างดี เป็น ไข่ไก่โมริ นำเข้าสายพันธุ์ ไก่โมริจากญี่ปุ่น มาเลี้ยงที่ไทยควบคุมการเลี้ยงอย่างดี ให้คงคุณค่าทางอาหารครบถ้วน และที่สำคัญเป็นไข่ที่สามารถทานดิบได้โดยไม่ทิ้งกลิ่นคาว ไข่ไก่คุณภาพมาตรฐานโลก กินดิบได้สไตล์ญี่ปุ่น ปราศจากซาโมเนลล่าและไม่มียาปฏิชีวนะอีกด้วย เพราะฉะนั้นนำเนื้อจุ่มไข่กินได้แบบสบายใจและอร่อยแน่นอน

ต่อมาขอลิ้มลอง OUMI-GYU เนื้อที่ติดอันดับความอร่อยแบบ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง

และแน่นอนว่านำมาจุ่มไข่ก่อนกินเหมือนเดิม เนื้อชิ้นนี้ต้องยกให้ในเรื่องความอร่อยจริงๆ ใครเป็นสายเนื้อแนะนำเลย

กินเนื้อไปอย่างอร่อยแล้ว ก็มาขอเติมผักกันต่อ ที่นี่ผักสดปลอดสารและดูน่ากินมากจริงๆค่ะ

เรามากินกับแฟน 2 คน ก็คือประทับใจและติดใจความอร่อยของเนื้อทั้ง 2 แบบมากจริงๆนะ ยกให้เป็นมื้อพิเศษที่พาแฟนมาเลี้ยงฉลองได้เลย


เมนูปิดท้าย Sukiyaki Udon หรือ Rice Bowl beef & egg สามารเลือกได้ 1 ใน 2 นี้ ซึ่งถ้าเป็นคนชอบกินเส้นขอแนะนำ Sukiyaki Udon เพราะที่นี่ใช้อุด้งเส้นสดที่ทำสดใหม่ทุกวัน มีการคัดเลือกแป้ง การควบคุมน้ำและเกลือ รวมถึงอุณหภูมิห้องเพื่อให้ได้เส้นอุด้งที่มีความเหนียวนุ่ม ส่วนเมนูข้าวได้สัมผัสความอร่อยของข้าวญี่ปุ่น สายพันธ์โฮชิฮิคาริ าชาของข้าวเมล็ดสั้น ข้าวสายพันธุ์ดีของญี่ปุ่น จากจังหวัดนิงาตะ ซึ่งมีดินและน้ำที่อุดมสมบูรณ์ จึงจะได้ข้าวที่เหนียวนุ่ม มีลักษณะสวยงามเป็นประกาย พร้อมทั้งยังรักษาสารอาหาร แร่ธาตุในข้าวได้มากกว่าปกติ เมื่อกินรวมกันในชามแล้วต้องบอกว่ารสชาติละมุนลงตัวมากๆ

เมนูของหวานปิดท้ายของคอร์สนี้ Festive Crystal Paradise เมนูขนมหวานต้อนรับเทศกาลสุดพิเศษ น่าตาชวนกินและชวนให้ทำคอนเทนต์สุดๆ

สำหรับชุดนี้ขอแนะนำสำหรับคนชอบทานปลา ที่เรียกว่าปลาบุริ

สำหรับ Appetizer ของเซตนี้ จะมี Hotate Sou-te ควบคู่หอย Hotate มันฝรั่ง และ Renkon ทอด และ Salmon and Mango Marinade with Potato Crape ที่ชวนเปิดต่อมรับรสได้ดีอีกเช่นกันค่ะ

ซึ่งปลาบุริ เป็นปลาที่หาทานได้ยากในประเทศไทยนะ ดูเผินๆจะเข้าใจว่าคล้ายซาซิมิฮามาจิที่เราเคยกินกัน ซึ่งจริงๆแล้วคือสายพันธ์เดียวกันค่ะ แต่ปลาบุริ จะถูกเลี้ยงให้โตกว่านั้น มีขนาด 80 cm. ขึ้นไป เป็นขนาดที่มีราคาสูงที่สุด มีสัดส่วนไขมันแทรกในเนื้อมาก ทำให้มีรสชาติหวาน มัน อร่อย สามารถทานได้ทั้งแบบซูชิ ข้าวด้ง แต่รูปแบบที่นิยมที่สุดจะเป็นบุรินาเบะ ที่หาได้แค่เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น เป็นที่นิยมสำหรับคนญี่ปุ่น
เราแอบลองทานปลาบุริแบบซาซิมิไปด้วย อยากบอกว่าเนื้อสดหวานมาก ไม่มีความคาวใดๆเลย ถ้าไม่ติดว่าต้องกินแบบสุกี้ยากี้ ก็สามารถกินซาซิมิได้หมดเลยนะ 5555


ตัวน้ำจิ้มที่กินกับปลาบุริมีความพิเศษมาก มีทั้งโชยุใส่ไข่ลงไป พริก กระเทียม และหอมเจียว ทุกอย่างพอกินร่วมกันแล้วช่วยเสริมให้เนื้อปลาอร่อยมากขึ้นไปอีกด้วยนะ

ได้เวลาเชฟเตรียมลงปลาบุริในหม้อให้เรากิน


และเช่นเคยค่ะ เชฟจะนำเนื้อปลาของเราไปแกว่งในน้ำให้พอสุก แล้วเสิร์ฟให้เราทันที


จิ้มน้ำจิ้มสักหน่อย อร่อยแบบไม่อยากแบ่งคนข้างๆแน่นอนค่ะ


เมนูปิดท้าย Buri Ryukyu Ochazuke เนื้อปลาบุริ และปลาแซลมอน หมักซอสริวกิวสูตรพิเศษ ท้อปปิ้งด้วยวาซาบิสด ทานคู่กับน้ำซุปโอชาสึเกะ หรือ Buri Chashu Tsuke Homemade Ramen ราเมงเส้นสดทานคู่กับน้ำซุปที่ผสมผสานระหว่างซุปทงคตสึ ซุปกระดูกหมูรสชาติเข้มข้น และซุปคารามิโสะ ที่มีรสชาติเผ็ดนิดๆ ทำให้ได้ซุปที่มีรสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมปลาบุริชาชูหมักซอสสูตรพิเศษ ไข่โมริทามาโกะออนเซนดองซอสเมนสึยุ หน่อไม้ และสาหร่ายย่าง เป็นเมนูที่ให้เลือกระหว่างชอบเส้นหรือชอบข้าวเหมือนกันค่ะ แต่ความอร่อยนี่ยกให้ทั้งคู่ เพราะปลาบุริมีส่วนช่วยให้เมนูทั้ง 2 มีความละมุนลงตัวมากขึ้น

ส่วนเมนูขนมหวานปิดท้าย จะเป็น Melty Snow สายไหมให้ความนุ่ม หอม หวาน ด้านในจะประกอบไปด้วยวาฟเฟิลเนื้อเนียนนุ่ม ตกแต่งด้วยผลไม้อบแห้ง และราดด้วยซอสชาเขียวเข้มข้น เมื่อกินรวมกันแล้วบอกเลยว่าอร่อยจนเพลินรู้ตัวอีกทีหมดจานแล้ว ^^


นอกจากนี้ถ้าหากมาที่ นาเบโซ พรีเมียม แล้วอยากทานเมนูแบบอะลาคาร์ท ทางร้านก็มีเมนูให้เลือกอยู่นะคะ อย่างเมนูนี้ CHIRASHI รวมสุดยอดวัตถุดิบชั้นเลิศในเมนู ที่มีทั้ง แซลมอน บุริ อโวคาโด ทามาโกะ ยากิ อูนางิ และในเซตยังมีสลัดผักสดๆ ไข่ตุ๋นนุ่มละมุน และเมล่อนหวานๆปิดท้ายให้ด้วยค่ะ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่สามารถสั่งกินได้ง่ายๆ มื้อกลางวันก็ดี หรือสั่งมาเพิ่มพิเศษในมื้อชาบูชาบู เพราะตัววัตถุดิบที่เชฟใส่ลงไปนั้นล้วนสดใหม่ ตักตรงไหนเข้าปากก็มีแต่คำว่าอร่อย และอร่อย
บรรยากาศร้าน Nabezo Premium

ที่ตั้งร้าน นาเบโซ พรีเมียม สาขาพารากอน ตั้งอยู่ชั้น G โดยจะอยู่โซนฝั่งที่มีธนาคารกสิกรไทยนะคะ เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอร้านแล้ว




ที่นั่งในร้านจะมีทั้งหมด 2 ชั้น ทั้งโซนด้านหน้าร้าน ในร้าน ชั้น 2 และถ้าหากมาเป็นกลุ่มแก๊งค์ ก็สามารถนั่งแบบห้องส่วนตัวได้ด้วยนะ
ซึ่งตอนนี้ทางร้านมีทั้งหมด 3 สาขาเลยนะคะ
- Central Embassy 5 Fl., please call 02-160-5623 or 081-899-4206.
- Gaysorn Tower 3rd Fl., please call 02-2538394 or 062-336-8444.
- Siam Paragon G Fl., please call 098-669-3174.
ร้านนี้ยกให้เป็น 1 ในลิสต์ที่มีเนื้อที่ดีมากๆ มาเสิร์ฟในรูปแบบชาบูชาบู สุกี้ยากี้ ทำให้เราเข้าถึงรสสัมผัสของเนื้อได้ดีมากขึ้น และยังได้รับการบริการที่ดี การกินที่ถูกต้องจากพนักงานของทางร้าน ทั้งหมดรวมเป็นความพรีเมียมที่มาแล้วเราจะได้ลิ้มรสความอร่อยและความประทับใจ จนต้องอยากชวนสายเนื้อ สายชาบูชาบู มาร่วมเปิดตี้ด้วยกันอีกแน่นอนค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม : www.facebook.com/NabezoPremium
Line : @Nabezopremium
โทร : 081 899 4206
กดติดตาม ถูกใจเพจ Enjoy lifestyle ให้ด้วยน๊าา
0 comments on “รีวิว Nabezo Premium สุดยอดชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ ด้วยเนื้อระดับพรีเมียม นุ่มละมุนในทุกคำ”